การ์ตูนผี

เล่าเรื่องผี การ์ตูนผี ช่อง indy99

วันอังคารที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2566

ผีเสื้อคลุมสีแดง

 ผีเสื้อคลุมสีแดง

Aka Mantoอะกะมันโตะ (ผีญี่ปุ่นใส่เสื้อกั๊กสีแดง)

ผีเสื้อคลุมแดง อะกะมันโตะ

ประวัติผีเสื้อคลุมแดง อากะ มันโตะ

ผีเสื้อคลุมแดง อากะ มันโตะ เป็นผีญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในห้องน้ำเก่าๆ โดยเฉพาะห้องน้ำคอกที่สี่ เพราะหมายเลขสี่ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึงความตาย ฉายาของเจ้าผีญี่ปุ่นตัวนี้ก็มาจากการที่มันสวมเสื้อคลุมสีแดงเลือดที่เชื่อกันว่าแต่เดิมเป็นเสื้อขาวแต่ถูกย้อมด้วยเลือดจนกลายเป็นสีแดง แยกแยะเพศไม่ออกว่าเป็นชายหรือหญิงเพราะเสื้อคลุมที่ยาวปิดมาถึงเข่าและมองไม่เห็นใบหน้าของมันเพราะมีหน้ากากปกปิด แต่ที่น่ากลัวที่สุดก็คือมันจะฆ่าเหยื่อไม่เลือกหน้า เป็นวิญญาณเฮี้ยนปรากฏตัวคอยหลอกหลอนผู้คนในห้องน้ำ


อากะ มันโตะจะปรากฏตัวและถามคนในห้องน้ำว่าชอบสีแดงหรือสีฟ้า หรือ อยากได้กระดาษสีแดงหรือสีฟ้า หากตอบว่าสีแดง ก็จะถูกอากะ มันโตะฆ่า หั่นร่างเป็นชิ้นๆ จนเลือดย้อมเสื้อผ้ากลายเป็นสีแดง หรือโดนถลกหนังจนเห็นเนื้อสีแดงฉานเหมือนกับว่าสวมเสื้อกั๊กสีแดง แต่ถ้าตอบว่าสีฟ้า ก็จะถูกอากะ มันโตะเอาเชือกรัดคอจนขาดอากาศหายใจตาย หรือถูกสูบเลือดออกไปจากร่างจนหมดทำให้ผิวกลายเป็นสีฟ้าซีดเหมือนศพ คำตอบที่ถูกต้องก็คือการไม่เลือกทั้งสองสี โดยตอบว่าไม่เอา ไม่ต้องการ จะเป็นการถ่วงเวลาได้ระยะหนึ่ง จากนั้นก็ให้รีบหนีออกจากห้องน้ำให้เร็วที่สุดเพราะเมื่อออกจากห้องน้ำที่เป็นอาณาเขตของอากะ มันโตะแล้ว มันก็จะไม่สามารถทำอะไรเราได้อีก และอย่าได้ตอบสีอื่นที่ไม่มีในตัวเลือกเด็ดขาดเพราะอากะ มันโตะไม่ชอบคนลองดีและจะลากคนๆ นั้นลงสู่ขุมนรก

เรื่องเล่าที่แพร่หลายเกี่ยวกับอากะมันโตะก็คือมีคนรายงานตำรวจว่าได้ยินเสียงแปลกๆ ในห้องน้ำหญิง ตำรวจหญิงจึงเข้าไปตรวจสอบและได้ยินเสียงปริศนาถามว่าอยากใส่เสื้อกั๊กสีแดงหรือเปล่า ตำรวจหญิงตอบว่าใช่ด้วยความตกใจ และหลังจากนั้นเพื่อนตำรวจที่รออยู่ข้างนอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของเธอ เมื่อเข้าไปในห้องน้ำก็พบร่างของตำรวจหญิงถูกปาดคอนอนเสียชีวิตอยู่ที่พื้น เลือดที่ไหลออกจากคอย้อมให้เสื้อของเธอกลายเป็นสีแดงฉานราวกับว่าเธอกำลังสวมเสื้อกั๊กสีแดงอยู่ไม่มีผิด

หลายคนเชื่อว่าเรื่องราวของอากะมันโตะมาจากข่าวฆาตกรโรคจิตที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำและฆ่าหญิงสาวที่ใช้ห้องน้ำตามลำพัง การฆาตกรรมนั้นโหดเหี้ยมมากจนเลือดของเหยื่อย้อมเสื้อผ้าของฆาตกกลายเป็นเสื้อสีแดง และเมื่อเรื่องราวถูกเล่าขานปากต่อปากก็เกิดการผิดเพี้ยนมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นเรื่องสยองขวัญมาจนถึงทุกวันนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น