แม่มด
แม่มด |
แม่มดคือหญิงสาวที่ฝักไฝ่เวทมนตร์คาถา มีรูปลักษณ์ที่หลากหลาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงผมยาว แต่งกายในชุดคลุมยาว สวมหมวกแปลายแหลม ใช้ไม้กวาดบินไปตามท้องฟ้า และมีแมวเป็นสมุนรับใช้ ว่ากันว่าแม่มดจะสืบทอดทางสายเลือดและถ่ายทอดความรู้ผ่านการสั่งสอนโดยไร้ซึ่งตำรา เพราะการเป็นแม่มดจำต้องปิดบังตัวเองไม่ให้ผู้อื่นรู้เพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย
แม่มดนั้นสามารถเป็นได้ทั้งฝ่ายดีและฝ่ายร้าย ผู้ที่ฝักใฝ่ฝ่ายร้ายจะทำสัญญากับซาตาน ด้วยการขายวิญญาณของตนแลกกับพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ โดยยอมเป็นเจ้าสาว เป็นทาสรับใช้ ประกอบพิธีกรรมต่างๆ โดยใช้การบูชายัญชีวิตคนหรือสัตว์บริสุทธิ์ นอกจากนี้ยังใช้อวัยวะสดๆ หรือเลือดสดๆ ด้วย แม่มดจำพวกนี้จะถูกเรียกว่าแม่มดดำ
เมื่อเป็นแม่มดแล้วก็จะใช้เวทมนตร์ที่เกี่ยวข้องกับการสาปแช่ง ทำร้ายคน สามารถแปลงกายเป็นสัตว์ต่างๆ ใช้พลังจากบรรดาภูตร้ายวิญญาณชั่ว ในขณะที่แม่มดฝ่ายดีหรือแม่มดขาวคือผู้ที่นับถือสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติที่เป็นฝ่ายดี เช่น ภูตแห่งพงไพร นางฟ้า นักบุญ หรือพลังธรรมชาติ แม่มดประเภทนี้จะใช้พลังเพื่อช่วยเหลือผู้คน ปกป้องคนอ่อนแอ เยียวยาอาการบาดเจ็บ มีความเชี่ยวชาญในด้านการรักษาโดยใช้สมุนไพรธรรมชาติ ทำนายอนาคตได้อย่างแม่นยำ หยิบยืมพลังจากธรรมชาติโดยไม่ทำร้ายใคร
ผู้หญิงในสมัยโบราณที่มีความเก่งกาจเหนือผู้อื่น มีรูปร่างพิกลพิการ มีรูปลักษณ์งามเหนือใคร หรือมีพฤติกรรมแปลกๆ มักถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด และในสมัยนั้นก็มีความหวาดกลัวแม่มดอย่างมากจนมีการล่าแม่มด ผู้หญิงที่น่าสงสัยจะถูกทางการนำตัวไปทดสอบ ซึ่งจริงๆ แล้วก็คือการทรมานให้ยอมรับว่าเป็นแม่มด และวิธีการทรมานนั้นก็แสนโหดร้ายน่าพรึงกลัวอย่างมาก เช่น เฆี่ยนประจาน เอาเข็มแทงตามร่างกายเพราะเชื่อว่าไม่มีอาวุธใดทำร้ายแม่มดได้ หรือ จับผู้หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดไปถ่วงน้ำ หากเธอลอยขึ้นมาได้ก็ถือว่าเป็นแม่มดตัวจริง เพราะผู้คนเชื่อว่าแม่มดไม่มีวันจมน้ำ แต่ถ้าผู้หญิงคนไหนยอมรับว่าตนเองเป็นแม่มด ก็จะถูกเผาทั้งเป็นอยู่ดี
และเรื่องเล่าเหตุการณ์ของการล่าแม่มดที่โด่งดังที่สุดในโลกเกิดขึ้นในซาเล็ม รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 1692-1693 ถูกบันทึกว่าเป็นการพิจารณาคดีแม่มดที่ซาเลม มีหญิงสาวผู้โชคร้ายที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดถึง 200 คน มีผู้ถูกประหารชีวิต 20 คน และเสียชีวิตในคุกอย่างน้อย 5 คน ถือเป็นการล่าแม่มดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น